ประวัติตำบลเมืองลี

ประวัติตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน

จากหลักฐานทางด้านโบราณคดีของไทย ได้สำรวจพบว่าบริเวณพื้นที่อำเภอนาน้อย ได้ปรากฏร่องรอยการอยู่อาศัยของมนุษย์มาช้านาน ไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ – ๒๐๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว มีกลุ่มชนเผ่าต่างๆมาอาศัยอยู่ทั่วไป ส่วนกลุ่มคนพื้นเมืองล้านนานั้นพึ่งจะเข้ามาอาศัยอยู่ได้ประมาณ ๖๐๐ กว่าปี ที่ผ่านมานี้เอง มี ๕ เมือง ได้แก่ เมืองงั่ว เมืองหิน เมืองหล่ม เมืองลี้  เมืองทั้งหมดนี้ขึ้นต่อเมืองน่าน

อำเภอนาหมื่น  จังหวัดน่าน  สันนิษฐานว่ามีประชากรตั้งถิ่นฐานทำมาหากินอยู่เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า  ๒๐๐ ปี มาแล้ว อยู่ทางใต้สุดของจังหวัดน่าน สภาพพื้นที่เป็นภูเขาและที่ราบบริเวณหุบเขา ในสมัยก่อนแบ่งออกเป็น ๒ เมือง  ขึ้นตรงต่อแขวงศรีษะเกษ (อำเภอนาน้อย)  ได้แก่

  • เมืองหิน ปัจจุบันคือเขตตำบลบ่อแก้ว ตำบลนาทะนุงและรวมถึงพื้นที่ตำบลสถาน อำเภอนาน้อย ในปัจจุบัน  สาเหตุที่เรียกว่าเมืองหินเพราะว่ามีลำห้วยสายหนึ่งไหลผ่านพื้นที่แหล่งชีวิตทำมาหากิน ของชาวบ้าน  มีหินสีขาวที่แข็งมากอยู่จำนวนมาก  ชาวบ้านเรียกลำห้วยนี้ว่า “ลำน้ำหิน”  และเรียกหมู่บ้าน  ที่ลำห้วยน้ำหินไหลผ่านว่า “เมืองหิน”
  • เมืองลี้ ปัจจุบันคือเขตตำบลเมืองลี และตำบลปิงหลวง ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ ทางราชการเห็นว่าการรวมแขวงไม่สะดวกต่อการปกครอง  จึงตั้งเป็นอำเภอขึ้น เรียกว่าอำเภอศรีษะเกษหรืออำเภอนาน้อยในปัจจุบัน ซึ่งรวมเมืองหิน เมืองลี้ ดังกล่าวด้วย ต่อมาทางราชการพิจารณาเห็นว่าอำเภอนาน้อยมีพื้นที่กว้างขวาง และมีสภาพเป็นป่าเขาทุรกันดาร การสัญจรไปมาระหว่างตำบลกับอำเภอนาน้อยไม่สะดวก  ทำให้การบริหารราชการเป็นไปด้วยความลำบากและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร  ยากแก่การติดต่อกับทางราชการ  และยากแก่การสอดส่องดูแลทุกข์สุขของประชาชน อีกทั้งยังมีปัญหาการแทรกซึมของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จึงให้แยกเมืองหิน เมืองลี้  ซึ่งมีตำบลบ่อแก้ว  ตำบลนาทะนุง และตำบลเมืองลีออกจากอำเภอนาน้อย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอนาหมื่น เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๒๑

ส่วนที่มาของคำว่าเมืองลีนั้น น่าจะมาจากคำว่าเมืองลี้ เพราะว่าในอดีต ผู้คนจากเมืองต่างๆ ที่หลบลี้หนีภัยข้าศึกสงคราม หรือหนีโทษบ้านเมืองก็มักจะไปซ่อนตัวอยู่เมืองนี้ เพราะมีสภาพเป็นป่าเขา ยากแก่การค้นหาตัว สาเหตุที่เปลี่ยนชื่อมาเป็นเมืองลี น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากภาษาบาลีมคธ เพราะคำว่าลี หรือลีนะ แปลว่าหลีกเล้น หรือซ่อนตัว ซึ่งก็ได้ความหมายเหมือนกับคำว่าลี้ เพราะว่าในยุคนั้นผู้คนมักนิยมเรียกชื่อเมืองเป็นภาษาบาลี เช่นเมืองหินว่าเมืองเสลานิคม เมืองน่านว่าเมืองนันทบุรี เป็นต้น

แต่หลักฐานที่พบในหนังสือนครน่านเมื่อ พ.ศ. ๒๕๗๘ ยังเรียกชื่อของเมืองลีว่า เมืองลี้ ฉะนั้นคำว่าลี้ กับลีก็น่าจะมีความหมายเหมือนกัน  ส่วนเหตุผลอีกข้อหนึ่งว่าเมืองนี้มีรูปสัณฐานเป็นรูปวงรี  จึงเรียกว่าเมืองลี แต่เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้นเพระคำว่าวงรีนั้นเขียนเป็นรูปตัว ร ไม่ใช่ตัว ล และคำว่าวงรีนั้น ไม่ค่อยนิยมใช่กันในภาษาเหนือ ฉะนั้นเหตุผลข้างต้นน่าจะเป็นไปได้มากกว่า นี่คือที่มาของคำว่าเมืองลี

จนถึง พ.ศ.๒๕๒๑ ทางราชการเห็นว่า อำเภอนาน้อยมีพื้นที่กว้างขวาง ยากแก่การติดต่อ ทางราชการ จึงแยกเมืองหิน กับเมืองลี อันมีตำบลบ่อแก้ว ตำบลนาทะนุง  ตำบลเมืองลี  ออกจากอำเภอ นาน้อย  ตั้งเป็นกิ่งอำเภอนาหมื่น เมื่อวันที่ ๙  ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๕  ต่อมากิ่งอำเภอนาหมื่นได้ขอตั้งตำบลเพิ่มอีก ๑ ตำบล คือตำบลปิงหลวง โดยแยกออกจากตำบลเมืองลี  หลังจากนั้น กิ่งอำเภอนาหมื่น ได้รับการยกฐานะ เป็นอำเภอเมื่อวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๗